คู่มือการเลือกประกันรถไฟฟ้าฉบับสมบูรณ์

การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในประเทศไทย ส่งผลให้ตลาดประกันภัยรถยนต์ต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของเจ้าของรถไฟฟ้า ซึ่งแตกต่างจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบเดิม ดังนั้น การเลือกประกันรถไฟฟ้าที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญบทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเปรียบเทียบแผนประกันรถไฟฟ้าจากบริษัทชั้นนำในปี 2025 พร้อมจุดเด่นและความคุ้มครองพิเศษที่แต่ละบริษัทมอบให้ เพื่อช่วยคุณตัดสินใจว่าควรเลือกทำประกันรถไฟฟ้าเจ้าไหนดีที่ตอบโจทย์การใช้งานและงบประมาณของคุณมากที่สุด

อัปเดตกฎเกณฑ์ใหม่สำหรับประกันรถยนต์ไฟฟ้าปี 2025

หลายคนยังคิดว่าแผนประกันชั้น 1 ทั่วไปใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้เหมือนรถสันดาป แต่ในความเป็นจริงแล้ว รถ EV มี “จุดเสี่ยง” และ “ภาระค่าใช้จ่าย” ที่แตกต่างออกไป ด้วยเหตุนี้ สำนักงาน คปภ. จึงออก ประกาศคำสั่งนายทะเบียนใหม่ (47/2566) บังคับให้บริษัทประกันออกกรมธรรม์เฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีการแยกความคุ้มครองแบตเตอรี่ การระบุชื่อผู้ขับขี่ และความคุ้มครองอุปกรณ์ชาร์จไว้อย่างชัดเจน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

การระบุชื่อผู้ขับขี่

ประกันรถไฟฟ้า EV ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่อย่างชัดเจน โดยสามารถระบุได้สูงสุด 5 คน (เพิ่มจากเดิมที่ระบุได้แค่ 2 คน) โดยหากเกิดอุบัติเหตุและผู้ขับขี่ไม่ใช่ผู้ที่ระบุชื่อไว้ ผู้เอาประกันอาจต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกสูงถึง 6,000-8,000 บาท

ความคุ้มครองแบตเตอรี่

มีการแยกความคุ้มครองแบตเตอรี่ออกจากตัวรถอย่างชัดเจน โดยระบุเกณฑ์การจ่ายค่าสินไหมตามอายุการใช้งาน ดังนี้

• รถอายุไม่เกิน 1 ปี : ได้รับเงินชดเชย 100% ของมูลค่าแบตเตอรี่ใหม่
• รถอายุไม่เกิน 2 ปี : ได้รับเงินชดเชย 90% ของมูลค่าแบตเตอรี่ใหม่
• รถอายุไม่เกิน 3 ปี : ได้รับเงินชดเชย 80% ของมูลค่าแบตเตอรี่ใหม่
• รถอายุไม่เกิน 4 ปี : ได้รับเงินชดเชย 70% ของมูลค่าแบตเตอรี่ใหม่
• รถอายุไม่เกิน 5 ปี : ได้รับเงินชดเชย 60% ของมูลค่าแบตเตอรี่ใหม่
• รถอายุมากกว่า 5 ปี : ได้รับเงินชดเชย 50% ของมูลค่าแบตเตอรี่ใหม่

ความคุ้มครองอุปกรณ์ชาร์จไฟ

มีความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับเครื่องชาร์จและสายชาร์จที่บ้าน รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดจากการใช้งานเครื่องชาร์จ

เช็กลิสต์เบื้องต้น เลือกประกันรถไฟฟ้าต้องเช็กอะไรบ้าง ?

ก่อนจะลงลึกถึงรายละเอียดของแต่ละบริษัท ลองมาดูกันก่อนว่า "สิ่งที่ควรพิจารณา" เมื่อต้องเลือกว่าจะทำประกันรถไฟฟ้าเจ้าไหนดีมีอะไรบ้าง เพื่อให้คุณเปรียบเทียบแผนได้ง่ายและไม่พลาดเรื่องสำคัญ

• ความคุ้มครองแบตเตอรี่ : มีการแยกความคุ้มครองจากตัวรถหรือไม่ และจ่ายตามอายุแบตเตอรี่อย่างไร
• ความคุ้มครองเครื่องชาร์จ : คุ้มครองสายชาร์จและ Wall Charger ที่บ้านหรือไม่
• การระบุชื่อผู้ขับขี่ : รองรับการระบุชื่อผู้ขับได้สูงสุดกี่คน และมีเงื่อนไข Excess (ค่าเสียหายส่วนแรก) หรือไม่
• การเลือกอู่ซ่อม : สามารถเลือกซ่อมกับศูนย์บริการหรืออู่มาตรฐานได้หรือไม่
• บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน : มีบริการ Roadside Assistance กรณีแบตเตอรี่หมดกลางทาง รวมถึงรถเสียหายหรือไม่ และจำนวนครั้งที่สามารถใช้บริการต่อปีอยู่ที่กี่ครั้ง
• ความคุ้มครองบุคคลภายนอก : ค่ารักษาพยาบาล ประกันตัว และความเสียหายทรัพย์สินครอบคลุมวงเงินเท่าไร
• กระบวนการเคลม : ความรวดเร็วในการอนุมัติการซ่อม รวมถึงช่องทางการเคลมที่สะดวก (แอป/ออนไลน์) เป็นอย่างไร
• ความยืดหยุ่นและส่วนลด : เช่นการปรับแต่งความคุ้มครองตามความต้องการ, ส่วนลดตามพฤติกรรมการขับขี่, การผ่อนชำระเบี้ยประกัน 0% เป็นต้น

เปรียบเทียบบริษัทประกันรถไฟฟ้าชั้นนำในปี 2025

เมื่อได้ทราบแล้วว่าหลักเกณฑ์ของประกันรถไฟฟ้านั้นคุ้มครองอะไรบ้าง ดังนั้นสำหรับใครที่อยากขับขี่รถ EV อย่างอุ่นใจ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกทำประกันรถไฟฟ้าเจ้าไหนดี เรารวบรวมข้อมูลจากบริษัทประกันชั้นนำที่นำเสนอประกันรถไฟฟ้า ในปี 2025 มาให้ได้พิจารณา ดังนี้

AXA (แอกซ่า)

จุดเด่น

• ให้ความคุ้มครองความเสียหายหรือสูญหายต่อเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านและสายชาร์จ
• คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกจากอุบัติเหตุ เนื่องจากการใช้งานเครื่องชาร์จทั้งที่บ้านและสถานีชาร์จสาธารณะ
• มีบริการ "แอกซ่า โรดไซด์ เซอร์วิส" ที่ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
• สามารถซื้อออนไลน์ได้ง่าย ภายใน 3 นาที