ข่าวและบทความ

คู่มือวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวโดยใช้รถ EV บอกครบทุกเรื่อง

calendar-icon21 พ.ย. 2567

วางแผนการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถ EV ยังไงไม่ให้พลาด ?

 

การใช้รถ EV เป็นรถออกทริปเดินทางท่องเที่ยว เริ่มกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับยุคนี้ และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความประหยัดที่เหนือกว่ารถยนต์แบบใช้น้ำมัน และการลดมลพิษที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม การเดินทางด้วยรถ EV อาจต้องใช้การวางแผนการเดินทางที่ละเอียดกว่า เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องระยะทางในการวิ่ง (Range) และการหาสถานีชาร์จที่เหมาะสม เพื่อให้การเดินทางราบรื่นและสะดวกสบายที่สุด

 

กลุ่มเพื่อนกำลังวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวโดยใช้รถ EV

 

1. การเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง


การเตรียมตัวที่ดีคือขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ถ้าอยากให้ทริปการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น โดยสิ่งที่ต้องทำมีดังนี้

 

  • ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ : ตรวจสอบสถานะของแบตเตอรี่ให้แน่ใจว่าชาร์จเต็มก่อนเริ่มการเดินทาง ตรวจดูว่ามีการเตือนเกี่ยวกับสถานะของแบตเตอรี่หรือไม่ หากพบปัญหาใด ๆ ควรนำรถไปเช็กที่ศูนย์บริการก่อนออกเดินทาง
  • ตรวจสอบยางรถยนต์ : ลมยางมีผลต่อประสิทธิภาพของการขับขี่โดยตรง หากลมยางต่ำกว่าที่กำหนดจะทำให้ระยะทางการขับขี่ลดลง ดังนั้น ควรตรวจสอบและเติมลมยางตามคำแนะนำของผู้ผลิต
  • ตรวจสอบระบบไฟและเบรก : เนื่องจากระบบไฟและเบรกเป็นส่วนสำคัญในการขับขี่ที่ปลอดภัย จึงควรตรวจเช็กให้พร้อมใช้งานเสมอ
     

2. การคำนวณระยะทางและการใช้พลังงาน


การคำนวณระยะทางและการใช้พลังงาน เป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนการเดินทางทางระยะไกลด้วยรถ EV

 

  • พิสัยการขับขี่จะแตกต่างจากที่ระบุในสเปก
    ระยะทางที่วิ่งได้จริงมักจะแตกต่างจากที่ระบุในสเปกของรถ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพอากาศ วิธีการขับขี่ และน้ำหนักที่บรรทุก
  • ความเร็วที่ใช้มีผลต่อการสิ้นเปลืองพลังงาน
    การขับขี่ที่ความเร็วสูงจะสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น ควรรักษาความเร็วให้คงที่ และใช้โหมด Cruise Control เมื่อเป็นไปได้
  • สภาพอากาศและการใช้เครื่องปรับอากาศมีผลต่อระยะทางที่วิ่งได้
    การใช้เครื่องปรับอากาศในสภาพอากาศร้อนหรือหนาว จะทำให้พิสัยการขับขี่ลดลง ควรปรับอุณหภูมิให้พอดีที่ระหว่าง 24-26 องศาเซลเซียส
  • เส้นทางขึ้น-ลงเขาใช้พลังงานต่างกัน
    เส้นทางขึ้นเขาจะใช้พลังงานมากกว่าช่วงลงเขา ดังนั้น แนะนำให้ตรวจสอบเส้นทางว่ามีความลาดชันมากน้อยแค่ไหน เพื่อการวางแผนการเดินทางและคำนวณพลังงานที่แม่นยำยิ่งขึ้น
  • ควรวางแผนให้มีแบตเตอรี่เหลืออย่างน้อย 20% เมื่อถึงจุดชาร์จ
    อย่าให้แบตเตอรี่เหลือน้อยเกินไป เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ปั๊มชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ขัดข้อง รวมถึงเป็นการถนอมแบตเตอรี่เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานด้วย
     

3. เทคนิคการขับขี่ประหยัดพลังงาน


การขับขี่ที่ประหยัดพลังงาน ช่วยเพิ่มระยะทางและลดการใช้พลังงาน ดังนั้น การรู้เทคนิคการขับขี่ก็ย่อมช่วยให้การวางแผนการเดินทางเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น

 

  • รักษาความเร็วให้สม่ำเสมอ
    การเร่งและเบรกบ่อย ๆ จะทำให้พลังงานถูกใช้มากขึ้น พยายามขับขี่ด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการเร่งและเบรกกะทันหัน
    การเร่งและเบรกแบบกระชากจะทำให้พลังงานสูญเสียไปมากกว่า ควรขับขี่อย่างนุ่มนวล
  • ใช้ระบบ Regenerative Braking ให้เป็นประโยชน์
    ระบบนี้จะช่วยเปลี่ยนพลังงานที่เสียไปในการเบรกกลับมาเป็นพลังงานไฟฟ้า ช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่
  • ปรับโหมดการขับขี่ตามสภาพถนน
    รถ EV ส่วนใหญ่มีโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย เช่น โหมด Eco, Normal และ Sport ดังนั้น คำแนะนำคือเลือกโหมดที่เข้ากับสภาพถนนและความเร็วการขับขี่ในช่วงเวลาดังกล่าว
     

4. การจัดการเวลาระหว่างการเดินทาง

 

  • การวางแผนจุดแวะพัก
    เลือกจุดแวะพักที่มีปั๊มชาร์จไฟฟ้ารถยนต์พร้อมบริการอื่น ๆ เช่น ร้านอาหารหรือห้องน้ำ จะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น ไม่เสียเวลาเปล่า ๆ ไปกับการชาร์จแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว
  • คำนึงถึงระยะเวลาในการชาร์จแต่ละครั้ง
    การชาร์จด่วน (Fast Charging) ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีในการชาร์จถึง 80% แต่การชาร์จแบบธรรมดา (AC Charging) อาจใช้เวลา 3-6 ชั่วโมง ดังนั้น ควรวางแผนเวลาชาร์จล่วงหน้าอย่างรอบคอบ
  • การจัดการเวลาชาร์จ
    หากต้องชาร์จรถเป็นเวลานาน ควรใช้เวลานั้นในการพักผ่อนหรือทำกิจกรรมอื่น เช่น การรับประทานอาหาร ชอปปิง หรือพักผ่อนในโรงแรม
  • เผื่อเวลาสำหรับการรอคิวชาร์จในช่วงเทศกาล
    ในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว อาจมีผู้ใช้รถ EV เพิ่มขึ้นและต้องรอคิวชาร์จเป็นเวลานาน ควรเผื่อเวลาไว้ในกรณีนี้
  • มีแผนสำรองกรณีสถานีชาร์จขัดข้อง
    ตรวจสอบข้อมูลปั๊มชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ที่อาจปิดปรับปรุง และวางแผนสำรองด้วยการหาสถานีชาร์จที่ใกล้เคียงที่สุด

 

คนกำลังขับรถ EV ที่ใช้เป็นรถออกทริปเดินทางท่องเที่ยว

 

5. แอปพลิเคชันที่ควรมีไว้ติดมือถือ

 

นอกจาก Google Maps ที่เป็นแอปพลิเคชัน (Application) มาตรฐานที่ทุกคนควรมีติดเครื่องไว้เพื่อดูเส้นทางและหาข้อมูลต่าง ๆ แล้ว แอปพลิเคชัน EVme ก็เป็นอีกหนึ่งแอปฯ ที่ตอบโจทย์การวางแผนการเดินทางที่ใช้รถออกทริปเป็นรถ EV โดยเฉพาะในส่วนของฟีเจอร์ EV Chargers & Trip Planner ที่ช่วยให้วางแผนการเดินทางสะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกังวลว่าออกทริปแล้วจะหาปั๊มชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ไม่เจอ

 

การเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถ EV อาจต้องการการวางแผนที่ละเอียดกว่ารถน้ำมันทั่วไป แต่ด้วยการ เตรียมตัวที่ดีและการวางแผนการเดินทางอย่างรอบคอบ การเดินทางด้วยรถ EV จะเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน เพราะทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้น สำหรับทริปต่างจังหวัดครั้งต่อไป เลือกเช่ารถไฟฟ้ากับ EVme มีรถหลายรุ่นจากหลายแบรนด์ให้เลือกในที่เดียว สะดวกสบายเพราะเพียงแจ้งจุดที่ต้องการรับรถและส่งคืน เราจะนำรถไปส่งให้คุณและรับคืนถึงที่หลังใช้งานเรียบร้อย สะดวก ไม่ต้องเดินทาง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์อย่าง EV Chargers & Trip Planner ที่จะเป็นเหมือนผู้ช่วยบอกข้อมูลที่จำเป็นสำหรับทริป ทำให้การเดินทางสะดวกกว่าที่เคย เริ่มต้นเช่าได้ง่าย ๆ ทั้งระยะสั้นระยะยาวผ่านแอปพลิเคชัน EVme ดาวน์โหลดฟรีทั้งระบบ iOS และ Android 

 

ข้อมูลอ้างอิง

 

  1. Everything You Need to Know About Road Tripping in an Electric Car. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.travelandleisure.com/travel-tips/electric-car-road-trip-charging-guide