ข่าวและบทความ

6 ระบบ AI ในรถยนต์ไฟฟ้า ขับสบาย ปลอดภัยขั้นสุด

calendar-icon30 ม.ค. 2568
image
image
image
image
image
ผู้ชายกำลังใช้งานระบบ AI ในรถยนต์ไฟฟ้า

สำรวจเทคโนโลยี AI น่าใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า

 

ขึ้นชื่อว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ย่อมมาพร้อมกับเทคโนโลยีการขับขี่ที่เหนือชั้น ช่วยยกระดับประสบการณ์ขับขี่ของผู้ใช้ให้ปลอดภัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเบื้องหลังก็คือการนำเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้กับฟังก์ชันการใช้งานด้านต่าง ๆ ของรถยนต์ไฟฟ้านั่นเอง

 

หลักการทำงานของระบบ AI ในรถยนต์ไฟฟ้า

 

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือ Artificial Intelligence คือเทคโนโลยีที่สามารถเลียนแบบกระบวนการคิด วิเคราะห์ และตัดสินใจของมนุษย์ โดยใช้ข้อมูลมหาศาลมาประมวลผลและเรียนรู้จากประสบการณ์การใช้งาน ส่งผลให้มีการนำ AI ไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันด้วย

 

ในรถยนต์ไฟฟ้า AI ไม่เพียงเป็นเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพการใช้งาน ระบบ AI ในรถไฟฟ้าทำงานผ่านการเก็บข้อมูลจากเซนเซอร์ กล้อง และเรดาร์รอบตัวรถ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์และตอบสนองอย่างเหมาะสม เช่น การควบคุมระยะห่างจากรถคันหน้า การตรวจจับสิ่งกีดขวาง และการเลือกเส้นทางที่เหมาะสม โดยการทำงานของ AI ในรถยนต์ไฟฟ้าแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่

 

• การรับข้อมูล (Input) : ระบบจะรับข้อมูลผ่านเซนเซอร์ต่าง ๆ เช่น กล้องตรวจจับภาพถนน เรดาร์ตรวจจับระยะห่าง และ GPS สำหรับนำทาง
• การประมวลผล (Processing) : AI จะใช้ข้อมูลที่ได้รับมาประมวลผลแบบเรียลไทม์ผ่านชิปคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง เช่น การประเมินสภาพถนน การคาดการณ์พฤติกรรมของรถคันอื่น และการเลือกการตอบสนองที่เหมาะสม
• การตอบสนอง (Output) : ระบบ AI จะส่งคำสั่งไปยังระบบต่าง ๆ ของรถ เช่น ระบบเบรก ระบบพวงมาลัย หรือระบบเร่งความเร็ว เพื่อให้รถตอบสนองอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

 

นอกจากนี้ AI ยังสามารถเรียนรู้จากข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ (Machine Learning) เพื่อนำไปพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน เช่น การจดจำรูปแบบการขับขี่ของเจ้าของรถ และการปรับแต่งระบบต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อีกด้วย


รถยนต์ไฟฟ้าใช้ AI ช่วยตรวจจับความปลอดภัยรอบคัน

 

การใช้เทคโนโลยี AI ในรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ดีขึ้น

 

เทคโนโลยี AI ในรถยนต์ไฟฟ้าไม่เพียงพัฒนาขึ้นเพื่อความล้ำสมัยเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัย สะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพสูงสุด ระบบ AI สามารถทำหน้าที่แทนผู้ขับขี่ในหลาย ๆ ด้าน จึงช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่และเสริมความปลอดภัยในทุกสถานการณ์ ผ่าน 6 ระบบอันทรงประสิทธิภาพเหล่านี้

 

1. ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัตโนมัติ (ADAS)

 

ระบบ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) คือระบบที่ออกแบบมาเพื่อลดภาระและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่โดยเฉพาะ เช่น

 

• Adaptive Cruise Control (ACC) : ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ปรับความเร็วตามรถคันหน้า ช่วยให้การขับขี่ในทางไกลสะดวกขึ้น
• ระบบรักษาระยะห่าง : ใช้เซนเซอร์เพื่อตรวจจับและรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า
• ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ : ทำงานเมื่อรถตรวจจับว่ามีสิ่งกีดขวางที่อาจเกิดอุบัติเหตุ
• ระบบ Autonomous Driving : ระบบขับขี่อัตโนมัติที่ช่วยควบคุมรถในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน เช่น การเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างมาก

 

2. ระบบนำทางอัจฉริยะ (Intelligent Navigation)

 

เป็นการนำทางด้วยเทคโนโลยี AI ที่มีความแม่นยำสูง สามารถคาดการณ์การจราจรล่วงหน้าและแนะนำเส้นทางที่รวดเร็วที่สุดเพื่อช่วยผู้ขับขี่ประหยัดเวลา โดยการวิเคราะห์ข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์ รวมทั้งช่วยค้นหาจุดชาร์จที่ใกล้ที่สุด พร้อมแสดงระยะทางและเวลาที่คาดว่าจะถึงด้วย

 

3. ระบบบริหารพลังงานแบตเตอรี่ (Battery Management)

 

AI ช่วยวิเคราะห์การใช้พลังงานและแนะนำวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ได้ดี เช่น การควบคุมการชาร์จเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ การตรวจจับอุณหภูมิที่เหมาะสม และการปรับสมดุลการจ่ายพลังงานในระหว่างขับขี่

 

4. ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะพร้อมผู้ช่วย (Smart Connectivity)

 

ตัวช่วยเพิ่มความสะดวกในการควบคุมรถผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมอุณหภูมิในห้องโดยสารล่วงหน้าได้ หรือใช้ AI อย่าง Alexa หรือ Google Assistant ในรถยนต์ช่วยควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ด้วยเสียง

 

5. การปรับแต่งประสบการณ์ขับขี่ส่วนบุคคล (Personalized Driving Experience)

 

AI ในรถยนต์ไฟฟ้ามาพร้อมกับเทคโนโลยี Machine Learning เก็บข้อมูลการขับขี่แล้วนำไปประมวลผล เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ดีขึ้น เช่น การปรับที่นั่งและกระจกมองข้างโดยอัตโนมัติตามความสูงของผู้ใช้งาน การบันทึกเส้นทางที่ใช้งานประจำ การปรับโหมดขับขี่ที่ใช้บ่อย

 

6. ระบบตรวจสอบความปลอดภัยรอบคัน (Surround View Monitoring)

 

กล้องและเซนเซอร์รอบตัวรถช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นสิ่งกีดขวางรอบคันได้แบบ 360 องศาผ่านหน้าจอแสดงผล พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อมีวัตถุหรือคนเดินผ่านใกล้ตัวรถ ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ และเหมาะสำหรับการถอยจอดในพื้นที่แคบ

 

ข้อควรระวังในการใช้งานเทคโนโลยี AI ในรถยนต์ไฟฟ้า

 

แม้ว่าระบบ AI ในรถยนต์จะมีความแม่นยำและเสถียรสูง แต่เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาและไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์แบบในทุกสถานการณ์ เช่น การขับขี่ในสภาพอากาศที่เลวร้ายหรือบนถนนที่ไม่มีเส้นจราจรชัดเจน นอกจากนี้ AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้ 100% ผู้ขับขี่จึงจำเป็นต้องมีสติและพร้อมเข้าควบคุมรถในกรณีฉุกเฉินอยู่เสมอ โดยเฉพาะในระบบ Autonomous Driving ซึ่งยังต้องการการตรวจสอบและการตัดสินใจจากมนุษย์เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่


 

สัมผัสประสบการณ์การขับขี่อันเหนือชั้นของรถ EV ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI สุดล้ำสมัย ทดลองขับและเช่ารถยนต์ไฟฟ้าระยะสั้นหรือระยะยาวจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำได้ที่แอปพลิเคชัน EVme แอปฯ เดียวครอบคลุมทุกเรื่องยานยนต์ไฟฟ้า ดาวน์โหลดฟรีได้ทั้งระบบ iOS และ Android พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าที่เช่ารถไฟฟ้ากับ EVme โดยเฉพาะ

 

• ค่าเช่าราคาเดียวตลอดระยะเวลาการเช่า หมดห่วงปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายจุกจิก
• ใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น ไม่จำกัดระยะทางการขับขี่
• สามารถเลือกแบรนด์และรุ่นรถที่ใช่ได้หลากหลาย
• ติดตั้ง Wall Charger ฟรี* พร้อมเดินสายไฟระยะไม่เกิน 15 เมตร (ไม่รวมค่าขอมิเตอร์)

 

*สิทธิประโยชน์นี้สำหรับลูกค้าสัญญาเช่า EVme SUBS เท่านั้น

 

ข้อมูลอ้างอิง

 

1. Enhance Safety and Innovation with AI in Autonomous Vehicles. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 จาก https://macgence.com/blog/ai-in-autonomous-vehicles/
2. เจาะลึก AI อยู่ที่ไหนบ้างในรถ EV | X-Ray. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 จาก https://www.autoinfo.co.th/tv/564149 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง