สถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charging Station) ถือเป็นหัวใจสำคัญของการใช้งานรถ EV เพราะเป็นแหล่งพลังงานที่ทำให้รถไฟฟ้าขับเคลื่อนไปได้จนถึงจุดหมายปลายทาง ดังนั้น ก่อนการเดินทางระยะไกล ผู้ขับขี่จึงควรวางแผนการเดินทางและเลือกจุดชาร์จที่สะดวกและครอบคลุม เพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ซึ่งในปัจจุบัน จุดชาร์จรถไฟฟ้าในประเทศไทยมีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้ อีกทั้งยังขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้อีกต่อไป ไม่ว่าจะเดินทางไกลแค่ไหนก็ตาม
ก่อนจะไปสำรวจแบรนด์สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่พร้อมให้บริการทั่วประเทศ สิ่งแรกที่มือใหม่เพิ่งเริ่มต้นใช้รถยนต์ไฟฟ้าควรรู้ คือความสำคัญในการวางแผนชาร์จรถไฟฟ้าอย่างรัดกุม ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะใกล้หรือระยะไกล สามารถแบ่งได้เป็น 3 ข้อหลักด้วยกัน คือ
• ช่วยให้คุณสามารถหาสถานีชาร์จได้ตามเส้นทางที่กำหนด ทำให้มั่นใจได้ว่าแบตเตอรี่จะไม่หมดระหว่างการเดินทาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแผนการเดินทางได้
• ลดความยุ่งยากและความเครียดในการหาสถานี EV Charger ที่เหมาะสมและพร้อมใช้งาน ไม่ต้องเสียเวลาขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อตามหาจุดชาร์จ
• มีเวลาค้นหาสถานีที่รองรับหัวจ่ายที่เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณ ทำให้การชาร์จเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
มีแพลนเดินทางไปเยือนต่างจังหวัด อยากวางแผนหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้าทั้งในภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหรือ หรือภาคอื่น ๆ ของประเทศไทยตั้งแต่เนิ่น ๆ เรามีรายชื่อแบรนด์สถานีชาร์จชั้นนำมาฝากกัน เพื่อช่วยให้ทริปการเดินทางของคุณราบรื่นในทุกเส้นทาง
จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศกว่า 400 แห่ง ค่าบริการสำหรับการชาร์จเร็วอยู่ที่ 7.2 บาท/หน่วยเมื่อดาวน์โหลดและลงทะเบียนการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน
โซลูชันการชาร์จรถไฟฟ้าจากประเทศสิงคโปร์ ปัจจุบันมีสถานีชาร์จให้บริการในประเทศไทยทั้งหมด 50 แห่ง ครอบคลุมหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ และพัทยา
ผู้ให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นพันธมิตรกับปั๊มน้ำมันบางจาก ปัจจุบันมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Ultra-fast Charging กำลังการชาร์จสูงสุดที่ 540 กิโลวัตต์ทั้งหมด 20 สถานี และวางแผนจะขยายไปถึง 250 สถานีในอนาคต
สถานีชาร์จภายใต้การดูแลของการไฟฟ้านครหลวง พร้อมให้บริการที่ 86 จุดชาร์จในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ มีให้เลือกทั้งแบบ DC และ AC ราคาอยู่ที่ 7.5 บาท/หน่วย
สถานีชาร์จที่ให้บริการโดย ปตท. มีหัวชาร์จให้บริการหลากหลาย ทั้ง DC และ AC อัตราค่าชาร์จอยู่ที่ 7.9 บาท/หน่วยสำหรับช่วง On Peak ตอนนี้มีกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ
EVolt มีสถานีชาร์จในประเทศไทยมากกว่า 300 แห่ง ครอบคลุมเขตเมืองใหญ่และทั่วทุกภูมิภาคในไทย ราคาเริ่มต้นที่ 8-10 บาท/หน่วยสำหรับ DC Fast Charge
เครือข่ายสถานีชาร์จของสถานีบริการน้ำมัน Shell กระจายตัวอยู่ 46 สถานีทั่วประเทศ ค่าบริการ 6-9 บาท/หน่วย ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการชาร์จ
ผู้ให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 300 แห่งทั่วประเทศ โดยมีทั้งสถานี DC Fast Charge และ AC Charging ค่าบริการสำหรับการชาร์จเร็ว DC จะเริ่มต้นที่ 7.5 บาท/หน่วย
หนึ่งในสถานีชาร์จชั้นนำที่พร้อมให้บริการมากกว่า 478 แห่งทั่วประเทศโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ค่าบริการสำหรับระบบชาร์จเร็วอยู่ที่ 7.11 บาท/หน่วยการชาร์จ
ปิดท้ายด้วยสถานีชาร์รถไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ให้บริการ 438 แห่งทั่วประเทศ ตู้ชาร์จขนาด 120 kW ค่าชาร์จอยู่ที่ 8.5 บาท/หน่วย และตู้ชาร์จขนาด 300 และ 360 kW อยู่ที่ 9.7 บาท/หน่วย
ข้อมูลวันที่ 28 พฤษภาคม 2568
เพื่อให้การเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้าของคุณสะดวกสบายกว่าที่เคย เราขอแนะนำฟีเจอร์ดี ๆ จากแอปพลิเคชัน EVme แอปเดียวครบจบทุกเรื่องการใช้งานรถไฟฟ้า รวมแผนที่สถานีชาร์จรถไฟฟ้าทั่วประเทศไว้ครบถ้วน ให้คุณวางแผนการชาร์จ จ่ายเงิน และจบทุกความกังวลเรื่องสถานีชาร์จได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว มาพร้อมข้อดีมากมาย ได้แก่
• รวมทุกสถานีชาร์จชั้นนำไว้ในแอปพลิเคชันเดียว เช่น EVolt, ReverSharger, Charge+ และ Spark EV
• ตรวจสอบประเภทหัวชาร์จของแต่ละสถานี และเช็กสถานะหัวชาร์จได้แบบเรียลไทม์
• ดำเนินการชาร์จและชำระเงินได้เลยในแอปพลิเคชัน ไม่ต้องโหลดหลายแอปให้ยุ่งยาก
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและลงทะเบียนใช้งาน โดยสามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android
2. เลือกเมนู ‘สถานีชาร์จและวางแผนทริป’ แล้วกด ‘ค้นหาสถานีชาร์จ’
3. กรอกข้อมูลรถยนต์ของคุณให้ครบถ้วน ประกอบด้วย แบรนด์ รุ่นรถ รุ่นย่อย เลขทะเบียน และจังหวัดที่ระบุอยู่บนป้ายทะเบียน
4. ค้นหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้คุณที่สุดหรือในบริเวณพื้นที่ที่ต้องการ แล้วเลือกสถานีชาร์จ จากนั้นระบบจะแสดงข้อมูลของสถานีชาร์จแห่งนั้นอย่างครบถ้วน เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง ชื่อผู้ให้บริการ กำลังไฟฟ้า ราคาต่อหน่วย
5. เดินทางไปยังสถานีชาร์จ เมื่อไปถึง ให้เลือกหัวชาร์จที่ต้องการ เลือกช่องทางการชำระเงิน แล้วกดปุ่มเริ่มการชาร์จ หากแบตเตอรี่เต็ม ระบบจะหยุดชาร์จโดยอัตโนมัติ หรือหยุดการชาร์จเมื่อได้ปริมาณแบตเตอรี่ที่ต้องการโดยการกดปุ่ม ‘หยุดการชาร์จ’ บนแอปพลิเคชัน เพียงเท่านี้ก็เป็นอันสำเร็จ
หากคุณกำลังลังเลที่จะเปลี่ยนมาใช้งานรถไฟฟ้า เพราะกลัวว่าจะไม่มีจุดชาร์จเพียงพอ ลองเช่ารถไฟฟ้าผ่านแอป EVme เพื่อทดลองใช้งานจริงและเปรียบเทียบว่ารถไฟฟ้ารุ่นไหนเหมาะกับคุณที่สุด โดยเรามีรถไฟฟ้าหลากหลายรุ่นจากแบรนด์ชั้นนำที่พร้อมให้บริการ พร้อมรับคำแนะนำจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านรถไฟฟ้า เพื่อให้คุณมั่นใจในการเลือกซื้อในอนาคต
ดาวน์โหลดแอปฯ ฟรีได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ iOS และ Android แอปฯ เดียวครบทุกบริการเกี่ยวกับรถไฟฟ้า พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าที่ซื้อและเช่ารถไฟฟ้ากับ EVme โดยเฉพาะ หรือนัดหมายเพื่อทดลองขับและรับคำแนะนำจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่ EVme Mobility Studio ได้เลย
ข้อมูลอ้างอิง
1. NUMBER OF ELECTRIC VEHICLE CHARGING STATIONS IN THAILAND. สืบค้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 จาก https://evat.or.th/images/evinfo/current-status/2024-2025/Poster_Charging_Station_2025Mar.pdf