News and Articles

8 วิธีดูแลรักษา ขายรถไฟฟ้ามือสองให้ราคาไม่ตก

calendar-iconSep 12, 2025
image
image
image
image
image
ผู้ชายส่งมอบกุญแจให้ลูกค้าหลังกระบวนการขายรถไฟฟ้ามือสองเสร็จสิ้น

ปัจจัยกระทบราคารถไฟฟ้ามือสอง พร้อมวิธีดูแลฉบับมือโปร

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ใช้รถส่วนใหญ่ใช้ตัดสินใจเลือกรุ่นรถ คือความเปลี่ยนแปลงของราคาในกรณีต้องการขายต่อ เพราะการซื้อรถยนต์สักคัน ก็เปรียบเสมือนการลงทุนรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องมีการดูแลเฉพาะตัวที่แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป และหากคุณรู้วิธีรักษาสภาพรถอย่างถูกต้อง ก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องราคาขายรถไฟฟ้ามือสองที่ต่ำลงอีกต่อไป

 

รถไฟฟ้ามือสอง ราคาขายต่อเป็นอย่างไรบ้าง ?

สถานการณ์ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสองในปัจจุบัน ยังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ราคาขายต่อของรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นจึงอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลายประการ

 

เทรนด์ราคารถยนต์ไฟฟ้าทั้งมือหนึ่งและมือสอง

ในช่วงที่ผ่านมา ราคารถยนต์ไฟฟ้ามือหนึ่งมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากมีผู้ผลิตรายใหม่เข้ามาในตลาดมากขึ้น รวมถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นและนโยบายการสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ได้ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

 

นอกจากนี้ การที่ราคารถยนต์ไฟฟ้ามือหนึ่งลดลง ยังส่งผลโดยตรงต่อราคารถไฟฟ้ามือสอง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะลดลงตามไปด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ได้รับความนิยมหรือมีสภาพดีมาก ก็ยังคงรักษาราคาขายต่อได้ในระดับที่น่าพอใจ

 

ปัจจัยส่งผลให้รถไฟฟ้ามือสองราคาตก

• แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ : หัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าและเป็นชิ้นส่วนที่ราคาสูงที่สุด หากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ จะส่งผลโดยตรงต่อระยะทางการขับขี่และทำให้ราคาขายต่อตกลงอย่างมาก

• เทคโนโลยีเก่าล้าสมัย : เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าพัฒนาอย่างรวดเร็ว รถรุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า เช่น ระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้น หรือระบบชาร์จที่รวดเร็วขึ้น จึงส่งผลให้รถรุ่นเก่ามีราคาขายต่อที่ถูกลง

• ขาดการรับประกันจากศูนย์บริการ : หากรถยนต์ไฟฟ้ามือสองที่ต้องการขายหมดระยะเวลารับประกันจากผู้ผลิตแล้ว ก็อาจทำให้ผู้ซื้อไม่มั่นใจในคุณภาพและอาจส่งผลต่อราคาขายต่อที่ลดลงได้เช่นกัน

 

การชาร์จแบตเตอรี่อย่างถูกวิธี ช่วยลดความเสี่ยงรถไฟฟ้ามือสองราคาตก

 

8 วิธีดูแลรถไฟฟ้ามือสอง ลดความเสี่ยงราคาตก

เพื่อให้คุณสามารถดูแลรถยนต์ไฟฟ้าให้มีสภาพดีที่สุดและรักษามูลค่าของรถเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้ รับรองว่าช่วยให้รถไฟฟ้าของคุณขายมือสองได้ราคา และใช้งานได้ดีในระยะยาวแน่นอน

 

1. ชาร์จแบตเตอรี่อย่างถูกวิธี

การดูแลแบตเตอรี่รถไฟฟ้าให้ดี เป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในการใช้งาน พยายามหลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 20% และไม่ควรชาร์จเต็ม 100% บ่อยเกินไป แนะนำให้ชาร์จให้อยู่ในระดับ 20-80% เพื่อยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ ควรลดการใช้ DC Fast Charge หรือการชาร์จแบบเร็วให้น้อยลง เพราะความร้อนที่เกิดขึ้นอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

 

2. ตรวจเช็กการทำงานของมอเตอร์ทุก 6 เดือน

มอเตอร์ไฟฟ้ามีอายุการใช้งานยาวนาน แต่ก็ควรได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อให้แน่ใจว่าระบบหล่อเย็นทำงานปกติ และหากมีเสียงผิดปกติหรืออาการสะดุดขณะขับขี่ ควรนำรถเข้าตรวจเช็กที่ศูนย์บริการทันที

 

3. ให้ความสำคัญกับลมยาง สภาพยาง และระบบช่วงล่างเสมอ

ยางรถยนต์และระบบช่วงล่างเป็นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้น เพื่อรักษามูลค่าและความปลอดภัยในการใช้งาน อย่าลืมปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้

 

• ตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำ เพราะแรงดันลมยางที่เหมาะสมจะช่วยลดการใช้พลังงานและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่

• สลับตำแหน่งยางตามกำหนด ช่วยให้ยางทุกเส้นใช้งานอย่างสมดุล สึกหรอใกล้เคียงกัน โดยไม่มีเส้นใดหมดสภาพเร็วกว่าเส้นอื่นจนอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ และช่วยยืดอายุการใช้งานของยางให้นานขึ้น

• ตรวจเช็กระบบช่วงล่างสม่ำเสมอ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ทั่วไป จึงต้องเช็กสภาพของโช้กอัปและระบบช่วงล่างเป็นประจำ

 

4. การรักษาความสะอาดและดูแลสภาพภายนอก

การดูแลรักษาสภาพภายนอกรถยนต์ให้สะอาดและสวยงามอยู่เสมอไม่เพียงแต่ทำให้รถดูใหม่ แต่ยังช่วยเพิ่มราคารถไฟฟ้ามือสองด้วย จึงควรล้างรถเป็นประจำเพื่อป้องกันคราบฝังแน่น ปกป้องพื้นผิวและสีรถจากรอยขีดข่วนด้วยการเคลือบสี และดูดฝุ่นบ่อย ๆ เพื่อรักษาความสะอาดภายในห้องโดยสาร

 

5. อัปเดตซอฟต์แวร์ตามกำหนด ตรวจระบบไฟฟ้าเป็นประจำ

รถยนต์ไฟฟ้า เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีระบบซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานต่าง ๆ ดังนั้น การอัปเดตซอฟต์แวร์ตามที่ผู้ผลิตแนะนำ จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของรถและแก้ไขปัญหาการใช้งานได้เป็นอย่างดี และควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบระบบไฟฟ้าและสายไฟตามเวลาที่กำหนดด้วย

 

6. เช็กระยะและตรวจสภาพรถที่ศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานเท่านั้น

การนำรถเข้าเช็กระยะตามกำหนดที่ศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่ารถได้รับการดูแลจากช่างผู้เชี่ยวชาญ และอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงเป็นของแท้ ซึ่งการมีประวัติเข้าศูนย์บริการที่ชัดเจน จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้รถของคุณเมื่อต้องการขายต่อได้เป็นอย่างดี

 

7. เก็บประวัติการดูแลและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าให้ครบถ้วน

รถไฟฟ้ามือสองที่มีประวัติการดูแลและซ่อมบำรุงที่ครบถ้วนจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อ จึงควรเก็บใบเสร็จและเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับการซ่อมบำรุงไว้ให้เป็นระเบียบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อว่ารถคันนี้ได้รับการดูแลอย่างดี คุ้มค่า และปลอดภัยหากจะซื้อไปใช้งานต่อ

 

8. ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ

สุดท้ายนี้ การขับขี่ด้วยความเร็วที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงการเบรกหรือเร่งความเร็วอย่างกะทันหัน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่อาจทำให้รถยนต์เสียหาย และส่งผลกับราคาขายต่อในระยะยาว ที่สำคัญ ต้องทำประกันภัยรถไฟฟ้าที่ครอบคลุม เพื่อสร้างความอุ่นใจว่าการซ่อมบำรุงจะดำเนินไปอย่างครอบคลุม มีมาตรฐาน กรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน 


 

การดูแลรถยนต์ไฟฟ้าให้มีสภาพดีและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงรถไฟฟ้ามือสองราคาตกหากต้องการขายต่อแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความทนทานของระบบต่าง ๆ ให้พร้อมใช้ได้ยาวนานขึ้นอีกด้วย

 

อัปเดตความรู้และข่าวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ๆ รวมทั้งรับคำแนะนำว่ารถไฟฟ้ามือสองน่าใช้ไหม จากทีมผู้เชี่ยวชาญได้ที่ EVme แพลตฟอร์มขายและให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้าทั้งระยะสั้นและระยะยาว มีรถไฟฟ้าจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำให้คุณเปรียบเทียบได้ตามต้องการ แอปพลิเคชันเดียวครบจบทุกเรื่องรถไฟฟ้า ดาวน์โหลดแอปฯ ฟรีได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ iOS และ Android 


 

ข้อมูลอ้างอิง

1. 5 วิธีดูแลรถยนต์ไฟฟ้า ถนอมแบตเตอรี่ ยืดอายุการใช้งานไปยาวๆ. สืบค้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 จาก https://www.roojai.com/article/your-car/5-techniques-extend-lifespan-ev-car/