รถไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี พิจารณา 6 ปัจจัยก่อนเลือกซื้อ

การลงทุนซื้อรถยนต์คันใหม่สักคัน ถือเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาและตัดสินใจอย่างรอบคอบ เพราะย่อมมาพร้อมกับภาระผูกพันในระยะยาว อีกทั้งในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV ก็มีความหลากหลายทั้งด้านประเภท ขนาด เทคโนโลยี และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้ขับขี่ หากกำลังอยู่ในกระบวนการตัดสินใจว่าควรเลือกรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี อย่ามองข้าม 6 เช็กลิสต์สำคัญเหล่านี้

ปัจจัยที่ใช้พิจารณาว่าควรเลือกรถ EV ยี่ห้อไหนดี

1. ประเภทและขนาดรถเหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสาร

สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาว่าจะเลือกรถ EV ยี่ห้อไหนดี เพื่อให้รองรับการใช้งานของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด ต้องเริ่มจากการพิจารณาขนาดและประเภทของรถ เช่น หากคุณเป็นครอบครัวขนาดเล็กที่ใช้รถส่วนใหญ่ขับขี่ในเมือง รถประเภท Hatchback หรือ Sedan ขนาดเล็ก 4 ที่นั่งก็อาจเพียงพอ เนื่องจากสะดวกต่อการขับขี่ในเมืองที่มีพื้นที่จำกัดและหาที่จอดรถง่าย ขณะเดียวกัน รถ SUV หรือ MPV ขนาดใหญ่ ก็เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคนและต้องการพื้นที่บรรทุกสัมภาระเพิ่มเติม รวมถึงผู้ที่มีเหตุจำเป็นต้องเดินทางไปนอกสถานที่บ่อย ๆ เพราะสามารถเก็บสัมภาระได้จำนวนมาก

นอกจากนี้ การเลือกรถให้เหมาะกับผู้โดยสารยังมีความเกี่ยวข้องกับความสะดวกสบายในห้องโดยสารด้วย เช่น ระดับความกว้างของพื้นที่นั่ง ที่เก็บสัมภาระ และการรองรับผู้โดยสารที่มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก การเลือกขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้โดยสารนั่งสบาย การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระยะยาว

2. พิจารณาจากไลฟ์สไตล์การใช้งาน เน้นขับในเมืองหรือออกต่างจังหวัด

การเลือกรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี ควรสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคุณด้วย เช่น หากคุณเป็นคนที่ใช้รถในเมืองเป็นส่วนใหญ่ การเลือกรถขนาดเล็กที่ประหยัดพลังงานและคล่องตัวจะทำให้การขับขี่สะดวกขึ้น ในทางกลับกัน หากคุณชอบขับรถท่องเที่ยวระยะไกลบ่อยครั้ง ควรเลือกรถ EV ที่มีระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จมากขึ้น รวมถึงควรมีระบบชาร์จไฟฟ้าแบบ Fast Charging ที่ช่วยลดเวลาในการชาร์จ ก็เป็นคำตอบที่เหมาะสมมากกว่า

ความสะดวกในการเข้าถึงสถานีชาร์จไฟสำหรับบริเวณที่สัญจรผ่านเป็นประจำ ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน หากมีสถานีชาร์จใกล้บ้านหรือที่ทำงาน ความจุแบตเตอรี่อาจไม่ใช้ปัจจัยสำคัญมากนัก แต่หากพื้นที่ที่เดินทางผ่านบ่อย ๆ ยังมีสถานีชาร์จอย่างจำกัด อาจต้องวางแผนการขับขี่ให้รัดกุมขึ้น หรือพิจารณารถที่มีระยะการขับขี่สูงมากเป็นพิเศษ

3. ระยะเวลาและระยะทางที่ใช้รถในแต่ละวัน

ระยะทางและเวลาในการขับขี่ก็มีผลต่อการเลือกแบตเตอรี่ของรถ EV เช่นกัน หากคุณขับรถระยะใกล้ ๆ ในเมือง เช่น ขับไปทำงานและกลับบ้านในระยะทางไม่เกิน 50-80 กิโลเมตร รถ EV ที่มีแบตเตอรี่ขนาดเล็กถึงขนาดกลางก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว แต่หากคุณขับรถไกลขึ้น เช่น ใช้รถในงานที่ต้องเดินทางข้ามจังหวัดหรือต้องขับตลอดทั้งวัน การเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุมากขึ้นจะช่วยลดการชาร์จไฟบ่อย ๆ ได้

อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องพิจารณา คือ ระบบชาร์จแบตเตอรี่ เช่น ระบบชาร์จเร็ว (Fast Charging) สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานรถต่อเนื่องโดยไม่ต้องรอนาน ซึ่งระบบนี้จะช่วยลดเวลาในการชาร์จและเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานจริงได้เป็นอย่างมาก

ฟังก์ชัน Fast Charge ทำให้รถไฟฟ้าน่าใช้มากยิ่งขึ้น

4. ฟังก์ชันพิเศษที่ตอบโจทย์

รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ มักมาพร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ล้ำสมัย เช่น ระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autopilot) ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการเดินทางไกล ระบบเอนเตอร์เทนเมนต์ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนได้ และระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Auto Parking) ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ขับขี่ในเมืองที่มีพื้นที่จำกัดในการจอด และฟังก์ชันอื่น ๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) และระบบรักษาระยะห่างระหว่างรถที่เพิ่มความปลอดภัย (Adaptive Cruice Control) ฟังก์ชันเหล่านี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อลดความซับซ้อนและเพิ่มความสนุกในการขับขี่ ซึ่งจำเป็นต้องนำมาใช้พิจารณาว่าจะเลือกรถ EV ยี่ห้อไหนดีด้วยเช่นกัน

5. งบประมาณและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

การซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสักคัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อไหนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วย นอกจากราคาซื้อแล้ว อย่าลืมคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในระยะยาว เช่น ค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และประกันภัยด้วย ซึ่งโดยปกติแล้ว รถ EV มักมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่ถูกกว่ารถสันดาปภายใน เนื่องจากค่าไฟฟ้าถูกกว่าเชื้อเพลิงและมีชิ้นส่วนที่ต้องบำรุงรักษาน้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม การวางแผนงบประมาณอย่างรอบคอบ รวมถึงการมองหาโปรโมชันหรือสิทธิพิเศษที่อาจช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย เช่น การลดภาษี หรือส่วนลดจากตัวแทนจำหน่าย จะช่วยให้คุณสามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

6. เลือกยี่ห้อและรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าเชื่อถือ

สุดท้ายคือการเลือกยี่ห้อรถยนต์ไฟฟ้าที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและการให้บริการหลังการขาย รวมทั้งควรพิจารณาว่ามีศูนย์บริการใกล้บ้านหรือสถานที่ทำงานหรือไม่ เงื่อนไขการรับประกันเป็นอย่งไร เพื่อความสะดวกในการซ่อมบำรุงรถยนต์

และสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อที่เชื่อถือได้ สมรรถนะการขับขี่ดีเยี่ยม และฟังก์ชันตอบโจทย์กับการใช้งานได้ในทุกมิติ เรามี 2 ยี่ห้อรถ EV น่าสนใจมาแนะนำ

AION Hyptec HT

รถ SUV 5 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% เบาะนั่งโดยสารระดับพรีเมียม พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง อัตราการเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.8 วินาที ระยะทางตามโหมดการขับ NEDC 620 กิโลเมตร ในรุ่น Luxury ชาร์จจาก 10-70% ภายในเวลา 15 นาที ราคาเริ่มต้น 1.499 ล้านบาท

XPeng

แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ที่โดดเด่นด้านเทคโนโลยีอันล้ำสมัย มีทั้งระบบจอดอัตโนมัติ (Auto Parking) ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัตโนมัติขั้นสูง (Advanced Driver Assistance Systems : ADAS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน (Lane Centering Control : LCC) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking : AEB) ดีไซน์ทันสมัยและความสะดวกสบาย เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและการขับขี่ในระยะทางไกล ชาร์จจาก 10-80% ภายในเวลา 20 นาที XPeng G6 ราคาเริ่มต้น 1.439 ล้านบาท

การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้อย่างถ่องแท้ก่อนเลือกว่าจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี จะช่วยให้คุณเลือกรถ EV ได้ตอบโจทย์และคุ้มค่าที่สุด หากคุณกำลังมองหารถไฟฟ้าน่าใช้ ที่ EVme เรามีรถไฟฟ้าหลากรุ่น หลายยี่ห้อให้เลือกซื้อ

พิเศษเฉพาะลูกค้าที่ซื้อรถไฟฟ้ากับ EVme

• ดาวน์ต่ำ ผ่อนชำระนาน 84 เดือน
• รับรถทดแทนหากมีปัญหาจากการใช้งานตัวรถ*
• ผู้ช่วยบนท้องถนน 24 ชั่วโมง กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

*เงื่อนไขกรณีที่รถมีปัญหาจากตัวรถและการใช้งานไม่ครอบคลุมเรื่องอุบัติเหตุทางท้องถนน

สนใจสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ของเราเพื่อทดลองขับ หรือสามารถเลือกเช่ารถ EV ระยะสั้นเพื่อลองใช้งานในชีวิตประจำวันก่อนตัดสินใจ โดยจองรถเช่าได้ที่แอปพลิเคชัน EVme ดาวน์โหลดฟรีทั้งระบบ iOS และ Android