News and Articles

เจาะลึก 'ระบบออโต้ไพลอต' เทคโนโลยีสุดล้ำของรถยนต์ไฟฟ้า

calendar-iconNov 28, 2024

ระบบ Autopilot ในรถยนต์ไฟฟ้า ดีอย่างไร ทำไมต้องมี ?

 

นอกเหนือจากการใช้พลังงานสะอาด อีกทั้งยังช่วยประหยัดเงินค่าน้ำมันได้ก้อนใหญ่แล้ว หนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความสนใจจากผู้ใช้รถจำนวนมาก ก็คือเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จัดเต็มมาแบบไม่น้อยหน้ากัน และหนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด ต้องยกให้ 'ระบบออโต้ไพลอต' (Autopilot) ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

 

ระบบ Autopilot สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร ?

 

ระบบออโต้ไพลอต (Autopilot) เป็นระบบที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดภาระของนักบินที่ต้องบังคับเครื่องบินในเที่ยวบินที่มีระยะทางไกล ใช้เวลาเดินทางยาวนานเป็นหลัก มีหลักการทำงานง่าย ๆ คือสามารถควบคุม 3 แกนหลักของเครื่องบิน ได้แก่ Pitch, Yaw และ Roll ได้ จึงบังคับให้เครื่องบินสามารถเลี้ยวไปตามทิศทางที่กำหนดและรักษาระดับความสูงให้เหมาะสมได้โดยที่นักบินไม่ต้องคอยควบคุมตลอดเวลา

 

จากความสำเร็จในการใช้ระบบนี้บนเครื่องบิน ก็ถูกนำมาต่อยอดในรถยนต์และรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายยี่ห้อ เป็นระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะที่ผสมผสานเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ กล้อง และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้รถสามารถทำงานบางอย่างได้โดยอัตโนมัติ เช่น การรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า การควบคุมพวงมาลัย และการเปลี่ยนเลนอย่างปลอดภัย โดยระบบนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์เองอย่างเต็มรูปแบบ แต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ ดังนั้น ผู้ขับขี่จึงจำเป็นต้องมีสมาธิและมีสติในการควบคุมรถอยู่เสมอ

 

ข้อดีของการเลือกใช้รถไฟฟ้าที่มาพร้อมระบบออโต้ไพลอต

 

ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าหลายยี่ห้อมักมาพร้อมระบบ Autopilot เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและสร้างความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น Tesla, BMW, Volvo, Hyundai และยี่ห้ออื่น ๆ ซึ่งหากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าสักคัน การเลือกรถยนต์ที่มาพร้อมระบบนี้ จะมาพร้อมข้อดีมากมาย ได้แก่

 

1. เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

 

อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดได้ทุกเวลา ซึ่งเทคโนโลยีอัจฉริยะของระบบออโต้ไพลอต สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่น การตรวจจับรถและสิ่งกีดขวางรอบตัวรถได้แม่นยำผ่านกล้องและเซ็นเซอร์ที่ประมวลผลอย่างรวดเร็ว หรือระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อรถคันหน้าหยุดกะทันหัน 

 

2. ลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่

 

การขับขี่ระยะทางไกล ๆ ย่อมทำให้ผู้ขับขี่เกิดความเหนื่อยล้า การเลือกรถที่มีระบบออโต้ไพลอตจะช่วยแบ่งเบาภาระผู้ขับขี่โดยการควบคุมพวงมาลัย รักษาความเร็ว และระยะห่างกับรถคันหน้าให้เหมาะสม ช่วยให้ไม่ต้องเร่งหรือเบรกบ่อย ๆ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องเดินทางไกลบ่อย ๆ มากเป็นพิเศษ

 

3. สร้างความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

 

เทคโนโลยีที่มาพร้อมระบบออโต้ไพลอตยุคใหม่ ค่อนข้างตอบโจทย์และสร้างความสะดวกสบายให้การขับขี่ได้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทางอัตโนมัติที่ช่วยให้รถสามารถเปลี่ยนเลนเองได้อย่างปลอดภัย หรือระบบ Smart Summon ของ Tesla ที่สามารถสั่งให้รถออกจากที่จอดและมารับผู้ขับได้โดยไม่ต้องเดินไปที่รถเอง

 

4. ลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สุดท้าย จุดเด่นของระบบนี้อยู่ที่ความสามารถในการควบคุมการเร่งและเบรกให้เหมาะสม ทำให้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้ระยะทางไกลขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง


ฟังก์ชันควบคุมความเร็ว หนึ่งในระบบ Autopilot ของรถยนต์ไฟฟ้า

 

เจาะลึกระบบ Tesla Autopilot กับหลากหลายฟังก์ชันที่ช่วยยกระดับการขับขี่

 

ในยุคแรกที่รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ต้องยอมรับว่าระบบ Autopilot ของ Tesla สร้างความฮือฮาให้ผู้ใช้ในไทยได้ไม่น้อย เพราะมาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงที่ถือเป็นมาตรฐานของรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายแบรนด์ และยังมีการอัปเดตซอฟต์แวร์อยู่เสมอ ส่งผลให้ตอบสนองการขับขี่บนท้องถนนได้อย่างเต็มรูปแบบ

 

จุดเด่นของ Tesla Autopilot อยู่ที่ระบบเซ็นเซอร์และกล้องรอบคันถึง 8 ตัว ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ครบทั้ง 360 องศา ระยะสูงสุดถึง 250 เมตร นำไปสู่ระบบอัจฉริยะอันทรงประสิทธิภาพเหล่านี้

 

1. ระบบนำทางอัจฉริยะ

 

ตัวช่วยนำทางและปรับเปลี่ยนเส้นทางให้เหมาะสม ช่วยเปลี่ยนช่องจราจรให้คุณไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย

 

  • Autosteer ระบบช่วยควบคุมการบังคับเลี้ยวของรถให้อยู่ในช่องทางจราจร โดยใช้ข้อมูลจากกล้องและเซ็นเซอร์รอบตัวรถในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางและสิ่งกีดขวาง รวมถึงรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
  • Smart Summon ระบบเรียกใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ ให้รถยนต์จะออกจากพื้นที่จอดมาอยู่ในจุดที่ต้องการได้โดยไม่ต้องมีคนขับ พร้อมหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างแม่นยำ

 

2. การขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ (FSD)

 

FSD หรือ Full Self-Driving เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้รถสามารถขับได้เองในเกือบทุกสถานการณ์โดยที่ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องควบคุม รวมทั้งช่วยค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุดในการไปถึงจุดหมายด้วย ซึ่ง Tesla รุ่นใหม่ทุกคันมีฮาร์ดแวร์ที่รองรับการใช้งาน FSD ได้ จึงสามารถเดินทางได้ทั้งระยะสั้นและระยะไกลแบบอัตโนมัติ โดยมีการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่องผ่านระบบ Over-the-Air

 

3. ระบบรักษาความปลอดภัย

 

นอกเหนือจากฟังก์ชันสุดล้ำสมัยแล้ว ระบบรักษาความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่ Tesla Autopilot ให้ความสำคัญเช่นกัน ได้แก่

 

  • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ช่วยตรวจจับวัตถุกีดขวางและเบรกได้ทันท่วงที
  • ระบบเตือนการชนด้านข้าง
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า
  • ระบบปรับไฟสูงและต่ำอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม

 

สัมผัสประสบการณ์การขับขี่จากนวัตกรรมสุดล้ำสมัยกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ ของ Tesla ได้แล้ววันนี้ ที่แอปพลิเคชัน EVme บริการให้เช่ารถ Tesla ระยะสั้นและระยะยาว ทดลองขับก่อนตัดสินใจซื้อเพื่อให้ได้รถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ที่สุดสำหรับคุณได้ผ่านแอปพลิเคชัน EVme ดาวน์โหลดฟรีทั้งระบบ iOS และ Android

 

พิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการเช่ารถ Tesla Model 3 Standard ผ่าน EVme Subs บริการเช่ารถระยะยาว 24 เดือน ราคาเพียง 33,500 บาท/เดือน มาพร้อมบริการที่จะช่วยให้คุณใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้แบบไม่มีสะดุดในทุกเส้นทางการขับขี่

 

  • ค่าเช่าราคาเดียวตลอดระยะเวลาการเช่า หมดห่วงปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายจุกจิก
  • ใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น ไม่จำกัดระยะทางการขับขี่
  • สามารถเลือกแบรนด์และรุ่นรถที่ใช่ได้หลากหลาย พร้อมทั้งเลือกปรับแต่งได้ตามชอบ
  • ติดตั้ง Wall Charger ฟรี พร้อมเดินสายไฟระยะไม่เกิน 15 เมตร (ไม่รวมค่าขอมิเตอร์)
  • คุ้มค่า ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นหลากหลายประการ
  • ฟรี ค่าบำรุงรักษาและจัดส่งรถถึงหน้าบ้าน
  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1
  • ฟรี พรบ.และภาษี
  • ฟรี รถทดแทนรถ

 

ข้อมูลอ้างอิง 

 

  1. Autopilot. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.tesla.com/th_TH/autopilot